4 วิธีจัดการเงินฉบับคน Gen Y
คน Generation Y คือคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2537 มีเอกลักษณ์ในการรักอิสระและมีความเป็นตัวเองสูง ไม่ยึดติดกับกรอบและค่านิยมเดิม ๆ โดยคนกลุ่มนี้เกิดและโตท่ามกลางเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้มีวิธีคิดและวิธีใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ คน Gen Y มักจะใช้จ่ายเงินในสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว อาหาร เครื่องดื่มราคาสูง หรือสินค้าฟุ้มเฟือย พวกเขามีความกล้าในการตัดสินใจและกล้าได้กล้าเสีย ในทางกลับกัน พวกเขาก็อาจมีปัญหาในการจัดการเรื่องการเงินและหนี้สิน เนื่องจากมีความต้องการในการใช้จ่ายเพื่อความสุขและความพอใจของตนเองเป็นหลัก
- ควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ด้วยการทำบันทึกรายรับ - รายจ่ายบนแอพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจลักษณะการใช้จ่ายของตนเอง และสามารถปรับการใช้จ่ายให้เกิดการออมเพิ่มขึ้นได้
- วางแผนในการจัดการหนี้สินในแต่ละเดือนให้หมดตั้งแต่วันที่เงินเดือนออก ทั้งค่าที่พัก ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ ค่าหนี้บัตรเครดิต เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสุขภาพทางเงินที่ดี การผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนไม่ควรเกิน 40 % ของรายได้
- "วางแผนเงินออม" เพื่อเป็นการนำเงินที่เหลือไปใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ ซึ่งการตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการออมเพิ่มมากขึ้น โดยเราควรออมเงินอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนอย่างน้อย 10% ของรายได้ และมุมมองทางการเงินของคน Gen Y ที่กล้าได้กล้าเสีย และสามารถรับความเสี่ยงได้สูง จึงเหมาะที่จะลองผิดลองถูกในเรื่องการลงทุน โดยสามารถนำเงินออมส่วนใหญ่ 70-80% ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น กองทุนรวมหุ้น เพื่อผลตอบแทนที่สูงและงอกเงย แต่ก็ควรกันเงินราว 20-30% ของเงินออม เก็บไว้ในรูปแบบที่มีความปลอดภัย เช่น เงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้นกู้ เพื่อความมั่นคงในอนาคตด้วย
- การวางแผนภาษี จะทำให้เรารู้ว่าการลงทุนใดสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้บ้างซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนไปในตัว นอกจากนี้ เมื่อภาระทางภาษีลดลงก็จะทำให้ผู้เสียภาษีมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถนำเงินส่วนนี้ไปลุงทุนเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางการเงินได้
Post Views: 89